โอเปอร์เรชั่น (โอเปอร์เรต)

a * b = ?

นิยาม

a , b เรียกว่า Operand
* เรียกว่า Operator

หลักการคิด

  1. หาว่า หน้า กับ หลัง ใกล้กับ หน้า + หลัง, หน้า * หลัง, 2 x หน้า, 2 x หลัง, หน้า² หรือ หลัง² และ Operate ทั้ง 2 คู่นั้นควรจะขาดหรือเกินไปในทิศทางเดียวกัน (ถ้าขาดก็ขาดทั้งคู่ ถ้าเกินก็เกินทั้งคู่)
  2. ดูว่า ค่าที่ได้จากข้อ 1 ขาดหรือเกินจากผลลัพธ์ไปเท่าไร
  3. ค่าที่ขาดหรือเกินนั้น สามารถหาได้จากค่าใด
  4. ถ้าหาค่าไม่ได้ ให้กลับมาหาความสัมพันธ์ของหน้ากับหลัง (คิดข้อ 1) ใหม่

จุดสังเกต

ถ้า หน้า และ หลัง เป็นตัวเลขที่น้อยแต่ถ้าผลลัพธ์ของโอเปอร์เรตเป็นค่าที่มากกว่า หน้า และ หลัง เยอะ แสดงว่า มีการยกกําลัง แน่นอนให้เลือกค่าที่ใกล้เคียงที่สุดระหว่างหน้า² หรือ หลัง²

คอร์สติวสอบ-กพ-64
เรียนซ้ำได้ไม่อั้น
ตลอดอายุสมาชิก
เนื้อหาครบทุกวิชา
อัพเดทล่าสุด

ตัวอย่าง 1

3  *  4  =  10
5  *  6  =  16
 จงหาค่าของ        7  *  3  =  ?

ขั้นที่ 1

ดูว่า หน้า + หลัง กับ หน้า × หลัง อันไหนใกล้เคียงกว่า เริ่มจาก หน้า + หลัง จะใกล้เคียงกว่า เพราะ ถ้าเป็น หน้า × หลัง จะได้ผลลัพธ์ของ 5 × 6 = 30 ซึ่งเยอะเกินไป

ขั้นที่ 2

หลังจาก หน้า + หลัง แล้วคํานวนต่อว่ายังขาดหรือเกินอีกเท่าไร

3  +  4   =   7      ขาดอีก  3
5  +  6   =   11    ขาดอีก  5

จะเห็นว่า 3 และ 5 คือ Operand ตัวหน้า

เพราะฉะนั้น สมการของโอเปอร์เรตตัวนี้คือ ( หน้า + หลัง ) + หน้า

ดังนั้น คําตอบ คือ (7 + 3 ) + 7 = 17

หนังสือสอบ-กฎหมาย-กพ-64
สั่งซื้อชุดแพ็คคู่สุดคุ้ม ครบ 4 วิชา
ราคา 555 บาท (จัดส่งฟรี)

ตัวอย่าง 2

3  *  7  =  52
4  *  5  =  29
 จงหาค่าของ        2  *  6  =  ?

ขั้นที่ 1

ข้อนี้มีเลข ยกกำลัง แน่นอน เพราะ ด้านขวาต่างจากด้านซ้าย เยอะมาก ลองหาว่า 2 หน้า, 2 หลัง, หน้า² หรือ หลัง² ตัวไหนใกล้เคียงกับผลลัพธ์มากกว่า ข้อนี้ หลัง² จะใกล้เคียงกับผลลัพธ์มากกว่า

ขั้นที่ 2

ดูว่าขาดอีกเท่าไร

7²   =   49      ขาดอีก   3
5²   =   25      ขาดอีก   4

จะเห็นว่า 3 และ 4 คือ Operand ตัวหน้า

เพราะฉะนั้น สมการของโอเปอร์เรตตัวนี้ คือ ( หน้า + หลัง² )

ดังนั้น คําตอบ คือ 6² = 36 + 2 = 38